videoของฉัน

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553


ประวัติวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ( พระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช)


วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เดิมเรียกว่า วัดพระบรมธาตุ เป็นวัดใหญ่ ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเมืองโบราณ


ค่อนมาทางทิศใต้ เนื้อที่ 25 ไร่ 2 งาน มีถนนราชดำเนินตัดผ่านหน้าวัด เข้าใจว่าเดิมคงเป็นถนนโบราณ ประวัติการ


สร้างวัดไม่มีหลักฐานปรากฎแน่ชัดนอกจากประวัติจากตำนานที่กล่าวถึงการก่อสร้างพระมหาธาตุ ซึ่งเป็นเอกสารที่ ี่เขียนขึ้นจาก

คำบอกเล่า

ภายหลังเหตุการณ์จริงเป็นเวลายาวนานมาก


หลักฐานทางเอกสารที่ชัดเจนปรากฏขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์กล่าวว่าวัดนี้เป็นวัดที่ไม่มี ีพระสงฆ์จำพรรษา

 ต่อมาพระเจ้า

บรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ อุปราชปักษ์ใต้ทรง


พระสงฆ์จากวัดเพชรจริกมาดูแลรักษาวัด และคราวที่รัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสเมืองนคร ได้โปรดพระราชทานนาม


วัดว่า วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารประวัติจากตำนานที่เล่าเรื่องการก่อสร้างพระบรมธาตุมีหลายสำนวนสามารถประมวล


ุเนื้อหาได้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เมืองต่าง ๆ ในแว่นแคว้นชมพูทวีปได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุไป ุเก็บรักษา

เคารพบูชา

เมืองหนึ่งชื่อเมืองทนธบุรี ได้พระทันตธาตุมาเก็บรักษาไว้ ต่อมามีกษัตริย์จากเมืองอื่นยกทัพ


มาเพื่อขอแบ่งพระทันตธาตุ กษัตริย์สิงหราชเจ้าเมืองทนธบุรีเห็นว่าจะรักษาเมืองไว้มิได้ จึงให้พระนางเหมชาลาและ


เจ้าชายทนทกุมารพระธิดาและพระโอรสอัญเชิญพระทันตธาตุ ลงเรือหนีไปลังกา เผอิญเรือกำปั่นถูกพายุพัด เรือแตก


ทั้งสองพระองค์มาขึ้นฝั่ง ณ หาดทรายแก้ว แล้วฝังพระทันตธาตุไว้ เรื่องราวดำเนินต่อไปจนทั้งสองพระองค์ไ์ด้กลับ


ไปลังกาโดยมีพระทันตธาตุสวน หนึ่งยังฝังอยู่ที่หาดทรายแก้วต่อมาพระเจ้าศรีธรรมโศกราชได้มาพบพระทันตธาตุ


และโปรดให้สร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและสร้างเมือง ณ หาดทรายแก้ว จนสำเร็จเมือง


ดังกล่าวก็คือ เมืองนครศรีธรรมราช


พระบรมธาตุเจดีย์ ก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช ซึ่งเชื่อกันว่าเดิมเป็นเจดีย์แบบอิทธิพลศิลปะ


ศรีวิชัย คือเป็นเจดีย์ทรงมณฑป มีหลังคาเป็นสถูปห้ายอดคล้ายพระบรมธาตุเจดีย์ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี


อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-15 ต่อมาพระสถูปแบบศรีวิชัยทรุดโทรมลง จึงได้มีการสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ทรงลังกาซึ่ง


เป็นเจดีย์องค์ปัจจุบันครอบไว้ เชื่อกันว่าในขณะนั้นคือราวพุทธศตวรรษที่ 18 อิทธิพลพุทธศาสนาแบบลังกาในดินแดน


นครศรีธรรมราชเข้มแข็งมาก นครศรีธรรมราชจึงได้รับอิทธิพลทั้งศาสนาและศิลปกรรมจากลังกา ศาสตราจารย์หม่อม ์เจ้าสุ

ภัทรดิศ ดิศกุลทรง

วินิจฉัยว่า พระบรมธาตุเจดีย์ปัจจุบันมีลักษณะคล้ายเจดีย์กิริเวเทระในเมืองโบโลนนารุวะ


ประเทศศรีลังกา สร้างในสมัยพระเจ้าปรากรมพาหุมหาราช ราวต้นพุทธศตวรรษที่ 18 พระบรมธาตุเจดีย์ ก็ควรสร้าง


หลังจากนั้นมากส่วนสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ ล้วนเป็นของที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเป็นส่วนใหญ่


จะมีสิ่งก่อสร้างในสมัย ธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้นอยู่บ้าง เช่น วิหารทับเกษตร วิหารพระแอด เป็นต้น

















สิ่งที่น่าสนใจในวัดพระธาตุ

1. พระบรมธาตุเจดีย์


2. วิหารพระทรงม้า


3. วิหารเขียน


4. วิหารโพธิ์ลังกา


5. วิหารสามจอม


6. วิหารพระแอด


7. วิหารทับเกษตร


8. วิหารคด


9. วิหารธรรมศาลา


10. วิหารหลวง


11. วิหารโพธิ์พระเดิม


12. พระอุโบสถ


13. เจดีย์รายรอบพระบรมธาตุเจดีย์


14. โบราณวัตถุภายในวัด

                                                                                                     พระวิหารแอด
ยอดพระธาตุทองคำ                              














นอกจากนี้ในบริเวณวัดพระธาตุ ยังจำหน่าย สินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (OTOP)เครื่องถมนคร งานฝีมือโบราณที่ถือ


เป็นเอกลักษณ์ของนครศรีธรรมราช เครื่องถมหลากหลายทั้งแหวน สร้อย กำไล พาน ขันและอื่นๆ อีกมากมีแหล่งขาย


รวมอยู่ที่ถนนท่าช้าง หลังสนามหน้าเมืองบริเวณวัดพระมหาธาตุวรวิหาร และตลาดท่าวัง



การเดินทางไปวัดพระธาตุ

1. การเดินทางโดนรถยนต์ส่วนตัว


จากเส้นทางสาย 401 ถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปที่ถนนราชดำเนิน เมื่อถึงตำบลในเมือง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเด่น

ตระหง่านอยู่ด้านขวามือ


2. การเดินทางโดยรถสาธารณะ

จากตัวเมืองนครสามารถนั่งรถโดยสารสายสนามกีฬา-หัวถนน (รถมาสด้า) ค่าโดยสารประมาณ 10 บาท ไปลงหน้า


วัดพระธาตุ หรือจะนั่งรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ประมาณ 20-50 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง


เรื่องราวและบทความที่เกี่ยวข้อง


- เที่ยวนครศรีธรรมราช บ้านฉัน


สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช

- วัดพระธาตุ นครศรีธรรมราช

- ศาลหลักเมือง

- กำแพงเมืองเก่า นครศรีธรรมราช


- หอพระอิศวร


- หอพระนารายณ์

- พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินครศรีธรรมราช

- พิพิธภัณฑ์หนังตะลุงลุงสุชาติ

- หมู่บ้านคีรีวง
                                                                                                                                            ทางเดินขึ้นสการะพระบรมธาตุ
- อุทยานแห่งชาติเขาหลวง นครศรีธรรมราช


- หาดขนอม


- เขาพลายดำ


- น้ำตกกรุงชิง






วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

บทความความรัก แค่ ความผูกพัน

บทความ ความรัก แค่...ความผูกพัน


วันนี้ เราอาจรู้สึกผูกพันต่อสิ่งหนึ่ง จนคิดว่าเราขาดไม่ได้...


แต่เวลาจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป


สักวันเราจะรู้ว่า สิ่งที่เราผูกพันในวันนี้


เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เติมชีวิตเรา ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต


วันหนึ่ง หากเรามีโอกาสได้เจอสิ่งที่ถูกใจสิ่งใหม่ที่เราคิดว่าเราพึงใจ..ปรารถนา..ต้องการ..ขาดไม่ได้


เราก็จะเริ่มผูกพันกับสิ่งใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก


เวลา.. จะสอนเราเองว่า ความผูกพันกับสิ่งใดๆในช่วงเวลาหนึ่ง


จะเป็นความสุขในช่วงเวลานั้นๆ


อย่าได้ไปยึดติด อย่าได้ไปใช้ชีวิตทั้งชีวิตลุ่มหลง


คิดเสียว่าเราโชคดีที่มีโอกาสได้ผูกพันกับสิ่งที่เรารัก


ความผูกพันก็เหมือนกับความรัก หรืออาจจะเป็นผลพวงที่มาจากความรัก หากเรารักใครคนใดคนหนึ่ง

มาก เราก็จะรู้สึกว่าผูกพันมาก


แต่ความผูกพันที่ว่า ไม่ได้หมายถึงการหยุดตัวเองไว้กับสิ่งนั้นๆ


เพราะคนเราทุกคนย่อมผูกพันกับหลายๆสิ่ง


เปรียบเสมือน เรามีแก้วนำอยู่หนึ่งใบ


ในยามเช้า...เราอาจต้องใช้แก้วใบนี้ดื่มนม


พออากาศร้อนหน่อย...เราอาจต้องการน้ำเย็นๆ


บางครั้งที่เราไม่สบาย...เราอาจต้องการน้ำอุ่น


ใจเราก็เหมือนกับแก้วน้ำ...


ต้องเติมสิ่งต่างๆ ในเวลาที่แตกต่างกัน ตามความเหมาะสม


หากเราเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำ


แล้วเติมน้ำร้อนลงไปในทันที ในแก้วใบเดียวกัน


แก้วใบนั้น..ก็จะร้าว..เริ่มแตก ซึ่งก็เหมือนกับใจเรา...


ความผูกพันต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในช่วงเวลาหนึ่งนั้น..ไม่ผิด


ถ้าเราค่อยๆปรับใจ..ปรับตัวของเราเอง..


ให้กลับคืนในเวลาที่ควร เพราะอย่างน้อยที่สุด..เราก็มีโอกาสได้ผูกพัน


ซึ่งก็เหมือนเรามีโอกาสได้รักนั่นเอง


ถ้าคุณมีความสุขที่เห็นเค้าเดินกับคนอื่น... คือ ความรัก


ถ้าคุณเศร้า..เหงา..คิดถึงเค้า..อยากเจอ..อยากพูดคุย... คือ ความรัก


ถ้าคุณร้อนรนที่เค้าอยู่กับใครๆที่ไม่ใช่คุณ... คือ ความใคร่


อยากเก็บไว้เป็นเจ้าของคนเดียว


ถ้าคุณเมามาย..เค้าลูบหลังไหล่..ดูแล... คือ ความรักที่บริสุทธิ์ใจ


ถ้าคุณเมามาย..เค้ากอดและสัมผัสร่างกาย... คือ ความใคร่จากเค้าของคุณ


ถ้าคุณเข้าหา.. แต่เค้าหนี... ... คือ ความใคร่ ที่หมดเยื่อใยแล้ว


ถ้าคุณหนี.. แต่เขาวิ่งตามมา... ... คือ ความรัก ที่ยังไม่มีจุดจบ


ถ้าคุณร้องไห้ให้กับคนที่ไม่มีเยื่อใยในตัวคุณ...


คุณคือ คนโง่ และบ้า อย่างน่าอาย


แต่ถ้าคุณพอใจ..จงรัก..และมอบความรักให้กับเค้า...


แม้มันจะไม่กลับมาหาคุณก็ตาม


จงดีใจที่ได้รักซะวันนี้.. ดีกว่าที่จะมานั่งเสียใจในวันหน้า


จงภูมิใจที่มีความใคร่.. เสน่หา


เพราะมันจะไม่ย้อนกลับมาหาอีกต่อไป...